743 จำนวนผู้เข้าชม |
ในการทำร้านปิ้งย่างนั้น หากว่าอยากเปิดก็เปิดกันได้อย่างง่ายดาย จากการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันเกี่ยวกับแหล่งเตาหมูกระทะซื้อที่ไหน เตาหมูกระทะราคาเท่าไหร่ เตาหมูกระทะถ่านกับไฟฟ้าแตกต่างกันอย่างไร ย่อมได้รับคำตอบที่ง่ายและรวดเร็ว ทำให้การตัดสินใจเพื่อเปิดร้านเป็นไปได้โดยเร็ว แต่ในการทำธุรกิจนั้นจะต้องมีการวางแผนให้รอบคอบและรัดกุมก่อนที่จะตัดสินใจเปิดร้านอย่างจริงจัง เพราะโอกาสที่ร้านจะติดตลาดก็มี แต่โอกาสที่จะเจ๊งก็มีเช่นกัน
แม้ว่าธุรกิจปิ้งย่างจะทำได้ง่ายเพราะมีผู้ผลิตวัตถุดิบให้เลือกสรรในตลาดอยู่เป็นจำนวนมาก แต่การที่จะหาเตาหมูกระทะราคาที่เหมาะสมกับทุนที่มีก็ต้องคิดหนักอยู่พอสมควร
ทั้ง 7 นี่เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจร้านปิ้งย่างเป็นได้อย่างราบรื่นและมีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เจ้าของกิจการไม่ต้องคิดหนักในภายหลัง
1. วางแผนธุรกิจเอาไว้ในกระดาษก่อน
การวางแผนธุรกิจจะช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถกำหนดแผนการจัดการร้านแบ่งเป็นระดับได้ง่าย อาจเริ่มจากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเตาหมูกระทะซื้อที่ไหนถึงจะได้ของที่มีคุณภาพ ตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกใช้เตาหมูกระทะถ่านหรือแบบไฟฟ้า หรือแม้แต่คัดเลือกเตาหมูกระทะราคาประหยัดเพื่อมาใช้ทดแทนในกรณีเตาเสียหาย คนส่วนใหญ่ที่เปิดร้านแล้วต้องปิดกิจการลงมักจะไม่ได้วางแผนธุรกิจเอาไว้ ทำให้ขาดความรอบคอบในการทำกิจการ
2. ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม
ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจร้านปิ้งย่าง ควรเลือกทำเลที่ตั้งที่เป็นแหล่งชุมชนหรือย่านธุรกิจที่มีผู้คนพลุกพล่าน เดินทางสะดวก มีที่จอดรถเพียงพอ และอยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ
3. คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี
วัตถุดิบเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจร้านปิ้งย่าง ควรเลือกวัตถุดิบคุณภาพดี สดใหม่ และสะอาด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
4. มีเมนูที่หลากหลาย
ความหลากหลายของเมนูจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการทานปิ้งย่างซ้ำ ๆ ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสทางการขาย ลูกค้าจึงมีโอกาสเลือกอาหารได้มากขึ้น และอาจทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการร้านบ่อยขึ้น รวมไปถึงสามารถสร้างความแตกต่างให้กับร้าน ทำให้ลูกค้าจดจำร้านได้ดี
5. การให้บริการที่ดีต่อลูกค้า
การให้บริการที่ดีต่อลูกค้าจะช่วยเพิ่มความประทับใจของลูกค้าที่มีต่อร้าน เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ ควรให้ความสำคัญกับการให้บริการที่ดี เช่น การสอบถามลูกค้าเติมน้ำในเตาหมูกระทะ หรือ การเปลี่ยนถ่านในเตาหมูกระทะถ่าน เป็นต้น
6. มีการจัดโปรโมชั่นและการตลาดอย่างเหมาะสม
ควรมีการจัดโปรโมชั่นและการตลาดที่ดึงดูดลูกค้า เช่น โปรโมชั่นลดราคา แจกบัตรแลกซื้อ คูปอง หรือแม้กระทั่งวันเกิดของลูกค้า เป็นต้น
7. พัฒนาและปรับปรุงธุรกิจอยู่เสมอ
เพื่อให้ธุรกิจมีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงลูกค้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและทันเวลา โดยอาจพิจารณาปรับปรุงในด้านต่าง ๆ
หากผู้ประกอบการนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจร้านปิ้งย่างของตน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะสูงขึ้น สามารถสร้างรายได้และกำไรให้กับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
ในการทำธุรกิจร้านปิ้งย่างหรือธุรกิจอื่น ๆ มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการจัดสรรระบบภายในธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ลดความคลุมเครือในการทำธุรกิจได้ดีขึ้นมา ทำให้ธุรกิจเกิดสภาพคล่องขึ้น และเมื่อเจอปัญหาก็หาทางแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว และเคล็ดไม่ลับนี้จะช่วยให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้อย่างยาวนาน ดังนี้
1. วางแผนอย่างรอบคอบ
เจ้าของร้านควรวางแผนการจัดสรรระบบภายในธุรกิจปิ้งย่างอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดของร้าน ประเภทของอาหาร งบประมาณ เตาหมูกระทะถ่านหรือไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อให้ระบบมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
2. กำหนดขั้นตอนการทำงาน
เจ้าของร้านควรกำหนดขั้นตอนการทำงานอย่างชัดเจน เพื่อให้พนักงานปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความผิดพลาด
3. จัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม
เจ้าของร้านควรจัดสรรทรัพยากรต่างๆ เช่น พนักงาน อุปกรณ์ วัตถุดิบ เป็นต้น จัดการคลังสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เพิ่มการบริการอย่างทันท่วงทีเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
การทำธุรกิจร้านปิ้งย่าง นอกจากจะต้องคำนึงถึงต้นทุนเรื่องเตาหมูกระทะซื้อที่ไหน เตาหมูกระทะราคาเท่าไหร่แล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องมีการจัดสรรระบบภายในของธุรกิจที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ควรใส่ใจเกี่ยวกับงบการเงินของร้านให้ดี ๆ ไม่ควรนำเงินส่วนของร้านมาใช้จ่ายส่วนตัว